Employee Experience
Boonyawee Sirimaya
2
นาที อ่าน
May 9, 2024

เครียดแต่ไม่กล้าบอกใคร สำรวจสุขภาพจิตพนักงานชายในที่ทำงาน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้มีการตระหนักรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสำคัญของสุขภาพจิตในสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ชาย ยิ่งในปัจจุบันที่สภาพการทำงานเคร่งเครียดมากขึ้นเพื่อเพิ่มความตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของผู้ชาย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องกล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตในหมู่พนักงานชาย และวิธีที่นายจ้างสามารถใช้เพื่อสนับสนุนคนกลุ่มนี้ได้

วิกฤตสุขภาพจิตของผู้ชายที่ทำงาน

ตามการสำรวจล่าสุดของ American Psychological Association (2021) 1 ใน 5 ของผู้ชายในสหรัฐอเมริกากำลังประสบปัญหาสุขภาพจิต อย่างภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล สถานการณ์ในสหราชอาณาจักรก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน โดยมี 1 ใน 6 ของผู้ชายรายงานว่ามีปัญหาสุขภาพจิตที่พบได้ทั่วไป น่าเป็นห่วงว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของปัญหาเกี่ยวเนื่องกับสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน

การศึกษาโดย Mental Health Foundation พบว่า 44% ของผู้ชายในสหราชอาณาจักรเชื่อว่างานเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพจิตของพวกเขา เทียบกับเพียง 31% ของผู้หญิง ความแตกต่างนี้สามารถเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ความคาดหวังของสังคม ความไม่มั่นคงในงาน ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน แรงกดดันจากงานอย่างหนัก และแม้แต่การถูกรังแก

ไม่กล้าของความช่วยเหลือจากผู้อื่น

หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตในหมู่ผู้ชายคือ ความไม่เต็มใจที่จะขอความช่วยเหลือ การสำรวจโดย Mind องค์กรการกุศลด้านสุขภาพจิตชั้นนำในสหราชอาณาจักร พบว่า 40% ของผู้ชายจะพยายามปกปิดปัญหาสุขภาพจิตจากนายจ้างของตน เนื่องจากกลัวว่าอาจส่งผลเสียต่ออาชีพการงานได้ ด้วยตัวเลขนี้ถือว่าเป็นสถิติที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากบ่งชี้ว่ามีผู้ชายจำนวนมากที่กำลังทนทุกข์ทรมานอยู่แต่เพียงลำพัง ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพและการทำงานของพวกเขา

พนักงานชายกับอาการซึมเศร้าจากภาวะเครียดสะสม
ความกดดันและความเครียดสะสมนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพจิตได้

ผลที่ตามมาหากสุขภาพจิตไม่ได้รับการเยียวยา

ผลที่ตามมาจากปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่ได้รับการแก้ไขในสถานที่ทำงานอาจรุนแรงมาก ทั้งต่อตัวบุคคลและองค์กร การวิจัยโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการว่า ต้นทุนจากการสูญเสียผลิตภาพทั่วโลกเนื่องจากภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติด้านความวิตกกังวลนั้นสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ในสหราชอาณาจักรเพียงประเทศเดียว การขาดงานของพนักงานโดยรวมแล้วทำให้สูญเสียวันทำงานสูงถึง 91 ล้านวันต่อปี

นอกเหนือจากผลกระทบทางการเงินแล้ว ปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่ได้รับการแก้ไขยังอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น ติดสุรา ติดยาเสพติด และแม้กระทั่งการฆ่าตัวตาย ปัญหาเหล่านี้ในสังคมส่งผลกระทบต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ตัวบุคคล แต่ยังส่งผลต่อเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว และชุมชนด้วย

การสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ใส่ใจกัน

เพื่อแก้ไขวิกฤตสุขภาพจิตในหมู่ผู้ชายในสถานที่ทำงาน นายจ้างจำเป็นต้องดำเนินการเชิงรุกในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานคอยเอาใจใส่พนักงานอยู่เสมอ เริ่มต้นด้วยการส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิดใจและสนับสนุนให้พนักงานกล้าพูดถึงปัญหาสุขภาพจิตโดยไม่ต้องกลัวการตีตราหรือผลกระทบใดๆ

การนำระบบการให้ข้อมูลป้อนกลับแบบสองทาง (two-way feedback) มาใช้แทนแบบบนลงล่าง (top-down feedback) สามารถช่วยสร้างความไว้วางใจและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในสถานที่ทำงาน นอกจากนี้ การฝึกอบรมพนักงานทุกคนให้รู้จักวิธีการสื่อสารกันอย่างสร้างสรรค์ ก็เป็นตัวช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ที่ดีและเอื้อต่อการทำงานร่วมกันอีกด้วย

การส่งเสริม work-life balance

นายจ้างควรให้ความสำคัญกับ work-life balance เพื่อต่อสู้กับระดับความเครียดและภาวะความเหนื่อยล้าสูงซึ่งพนักงานชายมักจะต้องเผชิญ สิ่งนี้สามารถทำได้โดยการสร้างรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น เช่น สามารถกำหนดชั่วโมงการทำงานของตนเองได้ หรือปิดการแจ้งเตือนหลังเวลาทำงาน

การเสริมสร้างพลังอำนาจให้แก่พนักงานโดยจัดเตรียมเครื่องมือและทรัพยากรที่เหมาะสมเพื่อให้พวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถช่วยต่อสู้กับความรู้สึกวิตกกังวลและซึมเศร้า การส่งเสริมการเรียนรู้และการสร้างทักษะอย่างต่อเนื่องในแนวทางที่เหมาะสม รวมถึงการทำให้องค์ความรู้ในสถานที่ทำงานมีความโปร่งใสและเข้าถึงได้ง่าย สามารถสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานได้มากกว่าแรงกดดัน

บทสรุป

การแก้ไขวิกฤตสุขภาพจิตในหมู่ผู้ชายในสถานที่ทำงานไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของจริยธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจอีกด้วย การดำเนินการเชิงรุกในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีการสนับสนุนอย่างทั่วถึงกับพนักงาน ไม่เพียงแต่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพจิต แต่ยังมีประโยชน์ในแง่ของผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นด้วย พนักงานมีส่วนร่วมมากขึ้น และการลาหยุดงานก็ลดลง

ความท้าทายในสภาพแวดล้อมการทำงานสมัยใหม่ การดูแลสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญมากๆกับพนักงานทุกคนไม่ว่าจะเพศใด รวมถึงการร่วมมือกันเพื่อขจัดการตีตราว่าปัญหาสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่ต้องเก็บไว้คนเดียวเป็นสิ่งจำเป็น เราสามารถสร้างกำลังคนที่มีสุขภาพดีและมีภูมิคุ้มกันมากขึ้นได้ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

ทาง Amity Solutions ก็มีบริการ Eko ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในสถานที่ทำงาน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ Amity Solutions