Generative AI
Saruta Charunmethee
1
นาที อ่าน
May 2, 2024

หลักจิตวิทยาของ Personalized Marketing ft. generative AI

Generative AI ผันตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Personalization และซื้อใจผู้ใช้ได้อย่างไร เหตุผลเหล่านี้คือคำตอบ

หากมีเรื่องหนึ่งที่ Generative AI ได้พิสูจน์ว่าไม่เป็นที่สองรองใคร ก็ต้องยกให้ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากและปรับเปลี่ยนการตอบสนองของมันได้ในทันทีตามสมควรนี่แหละ

แต่ถ้าหากไม่มีหลักจิตวิทยาด้านการตลาด (Personalization) ภายใต้เทคโนโลยีนี้ ซึ่งให้บริการตามความต้องการส่วนบุคคล ก็ไม่มีทางที่มันจะยังถูกนำมาใช้ประโยชน์เพื่อยกระดับระบบสื่อสารขององค์กรและได้รับงบสนับสนุนให้พัฒนาได้ต่อไป

โดยทฤษฎีจิตวิทยาที่ใช้ในการตลาดดังกล่าวที่นักพัฒนาได้ฝึกฝนให้เจ้า Generative AI นี้ มีดังนี้

ทำการตลาดแบบ Personalized Marketing เข้าถึงลูกค้าอย่างโดนใจ
จิตวิทยาในการทำการตลาดแบบ Personalized Marketing

Principle of Relevance (เรามีอะไรที่เหมือนกัน)

มนุษย์มีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจข้อมูลและประสบการณ์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวิต งานอดิเรก และความต้องการของพวกเขา การตลาดว่าด้วยจิตวิทยาการจัดสรรส่วนบุคคลหรือ Personalized Marketing เป็นหลักการจิตวิทยาที่นำเสนอเนื้อหาและยื่นข้อเสนอที่สอดคล้องกับความชื่นชอบ พฤติกรรม และลักษณะนิสัยของลูกค้าแต่ละคน

เมื่อลูกค้ามองเห็นว่าแบรนด์สามารถสื่อสารให้เห็นถึงความเชื่อมโยงได้ ก็มักจะตอบสนองและสนใจในตัวแบรนด์ เสริมสร้าง Brand loyalty ได้ง่ายและยั่งยืน

The Need for Individuality (ความพิเศษของตัวบุคคล)

ทุกคนอยากเป็นคนที่มีเอกลักษณ์และอยากให้คนเห็นคุณค่าในตัวเรา แคมเปญการตลาดขนาดใหญ่ ถึงแม้จะมีประสิทธิภาพแต่บ่อยครั้งก็เข้าไม่ถึงความต้องการที่แท้จริง Persinalization ให้ความรู้สึกว่าลูกค้าเป็นคนพิเศษและแตกต่าง

วิธีการที่ปรับใช้นี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ มองเห็นและรับฟังความคิดเห็นอย่างตั้งใจ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นและความถักดีต่อแบรนด์

The Endowment Effect (ความอยากเป็นเจ้าของ)

อิทธิพลของการมีหรืออยากครอบครองเป็นหลักจิตวิทยาที่ทำให้บุคคลให้ค่ากับสิ่งที่เขาเป็นเจ้าของหรืออยากเป็นเจ้าของสูงกว่าทั่วไป Personalization ให้ความรู้สึกว่าสินค้าหรือบริการนั้นๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อลูกค้าแต่ละคน

เมื่อคนรู้สึกว่าสินค้าบริการหรือสิทธิพิเศษนั้นมีไว้เพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ ลูกค้าก็มักจะคิดว่าสิ่งนั้นมีมูลค่ามากกว่า ทำให้พวกเขาสนใจที่จะซื้อมากขึ้น

Reciprocity and Trust (ความสัมพันธ์และความไว้วางใจ)

Personalization สามารถเสริมสร้างความเชื่อมถึงกันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคได้ โดยการลงทุนเวลาและพยายามเข้าใจและตอบสนองต่อความชอบของแต่ละบุคคล แบรนด์แสดงความใส่ใจและมุ่งมั่นสร้างความไว้วางใจและความภักดีต่อแบรนด์

ผู้บริโภคที่รู้สึกว่าแบรนด์ให้ความสำคัญมักจะพร้อมตอบแทนความรู้สึกนั้นผ่านการมีส่วนร่วมมากขึ้นและสนับสนุนแบรนด์ต่อไป

Cognitive Fluency (ง่ายต่อการจัดลำดับความคิด)

ประสบการณ์การบริการที่เกิดกับกับบุคคลนั้นๆ ซึ่งสอดคล้องกับความรู้ ความชอบ และกระบวนการความคิด ทำให้ลูกค้าย่อยข้อมูลนั้นได้ง่าย

ประสบการณ์ลูกค้าที่ไม่ยุ่งยากและสนุก ทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์เพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มโอกาสที่จะกลายมาเป็นลูกค้าในระยะยาวได้

Use Case การใช้หลักจิตวิทยาทางการตลาดที่ได้ผล

Spotify's DJ

หนึ่งใน Use Case ที่ดีที่สุดคงต้องเป็นการแนะนำเพลงและเพลย์ลิสของ Spotify ซึ่งปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า Song Psychic “สำหรับคุณ”

การดูข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมากผ่าน Generative AI ช่วยให้ Spotify เข้าใจความชอบและพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้พวกเขาสามารถนำเสนอเพลย์ลิสต์และโฆษณาที่ถูกกลุ่มเป้าหมาย Spotify ใช้ Machine Learning เพื่อทำนายได้อย่างแม่นยำว่าแต่ละคนจะชอบอะไร ซึ่งเป็นการตลาดที่น่าสนใจและได้ผลสุดๆ

Amity Bots : ตัวแทน AI สำหรับองค์กร หรือ Enterprise AI Agent

ในฐานะผู้ช่วย AI ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Generative AI เจ้าบอทนี้เข้าใจความต้องการของลูกค้า สามารถค้นหาสินค้าที่ลูกค้าต้องการและเปรียบเทียบสินค้าเหล่านั้นได้

อีกทั้งยังแนะนำสินค้าและโปรโมชั่นที่เกี่ยวข้องที่สุด เหมาะสมกับกับกลุ่มลูกค้านั้นๆ ตลอดกระบวนการนี้ Enterprise AI Agent สื่อสารในลักษณะที่เข้าใจง่าย กระชับ และเหมาะสม

เทคโนโลยีนี้ได้รับการพิสูจน์โดย 6 องค์กรชั้นนำในประเทศไทย ซึ่งรับบทบาทตามที่มอบหมายได้อย่างเป็นมืออาชีพ

เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมและอัพเดตข่าว AI รายสัปดาห์ได้ที่นี่!