By clicking “Accept All”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage and assist in our marketing efforts as outlined in our privacy policy.
ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบัน Voice AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการปฎิวัติการใช้งานอุปกรณ์หรือเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ด้วยการใช้ ‘เสียง’
Voice AI หรือผู้ช่วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์สร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิตแบบ handless หรือการใช้ชีวิตโดยปราศจากการสัมผัสนั่นเอง หากคุณเป็นมือใหม่กับเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Voice AI ด้วยคู่มือสำหรับมือใหม่ที่จะช่วยให้เข้าใจถึงพลังของ Voice AI และศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งรอบตัวเรา
Voice AI คืออะไร?
Voice AI หรือที่เรียกว่าระบบรับคำสั่งด้วยเสียง (Voice User Interface) เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อคำสั่งเสียงของมนุษย์ได้ ด้วยการผสมผสานระหว่างการรับรู้การพูด (Speech Recognition) การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) และการสังเคราะห์เสียงพูด (Text-to-Speech) เพื่อสร้างระบบสนทนาที่ทันสมัย ตัวอย่างของ Voice AI ที่เราคุ้นเคยกันดีคือผู้ช่วยเสียงอย่าง Siri, Alexa และ Google Assistant
ประโยชน์ของ Voice AI
ความสะดวกแบบไร้การสัมผัส: ด้วย Voice AI คุณสามารถทำงานต่างๆ ได้โดยไม่ต้องพิมพ์หรือสัมผัส ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันหรือเมื่อมือของเรากำลังจัดการงานอื่นอยู่
ประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์: Voice AI จะปรับตัวให้เข้ากับเสียง ความชอบ และพฤติกรรมของผู้ใช้แต่ละคน เพื่อมอบประสบการณ์ที่เป็นกันเองและตรงตามความต้องการในแต่ละบุคคล
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: โดยการลดขั้นตอนและทำให้การทำงานเป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น Voice AI สามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานทั้งในชีวิตประจำวันและชีวิตการทำงาน
การประยุกต์ใช้ Voice AI
Voice AI สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ดังนี้:
บริการลูกค้า: ระบบแชทบอทและผู้ช่วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย Voice AI สามารถให้บริการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ตอบคำถามและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานบริการลูกค้า ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลหรือขอความช่วยเหลือผ่านคำสั่งเสียงได้ตลอดเวลา
การทำงานของ Voice AI
เทคโนโลยี Voice AI อาศัยองค์ประกอบหลักดังต่อไปนี้เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
ระบบรับรู้การพูดอัตโนมัติ (ASR): เทคโนโลยีนี้แปลงคำพูดให้เป็นข้อมูลตัวอักษรดิจิทัลที่ระบบ AI สามารถประมวลผลได้
การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP): NLP วิเคราะห์และตีความหมายของข้อมูลตัวอักษร ทำให้ระบบ AI สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อคำสั่งเสียงได้อย่างถูกต้อง
การแปลงข้อความเป็นเสียงพูด (TTS): เมื่อระบบ AI ต้องการตอบกลับด้วยเสียงพูด องค์ประกอบ TTS จะแปลงข้อมูลตัวอักษรดิจิทัลให้เป็นเสียงสังเคราะห์
การเรียนรู้ของเครื่อง: ระบบ Voice AI ใช้อัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการรับรู้เสียงพูด การเข้าใจภาษา และการสร้างการตอบสนองให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อนาคตแห่ง Voice AI
ในขณะที่เทคโนโลยี Voice AI ยังคงเติบโตและพัฒนา การประยุกต์ใช้งานก็จะอัจฉริยะและล้ำสมัยมากขึ้น ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การทำงาน และการโต้ตอบกับเทคโนโลยีของเรา ตั้งแต่การควบคุม smart home ไปจนถึงผู้ช่วยเสมือนที่สามารถจัดการงานซับซ้อนได้ แนวโน้มพลิกโฉมนี้แสดงถึงศักยภาพอันไม่มีขีดจำกัด
สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ Voice AI ก็เป็นประเด็นที่มีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ในฐานะผู้ใช้ เราจำเป็นต้องเข้าใจถึงวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ให้บริการ Voice AI และดำเนินมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม
โดยรวมแล้ว Voice AI คือเครื่องมือที่ทรงพลังที่มอบความสะดวกสบาย การเข้าถึงที่ง่ายขึ้น และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยการเข้าใจศักยภาพและติดตามความคืบหน้าของเทคโนโลยีนี้อย่างใกล้ชิดด้วยการนำ Voice AI มาใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มความง่ายในชีวิตประจำวันของคุณได้
ทาง Amity Solutions ก็มีบริการ AI Voicebot ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเช่นกัน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่